วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555
รุ่นของ Ubuntu
รุ่นของ Ubuntu
ผู้พัฒนาเริ่มนำรูปแบบการเรียกรุ่นของ Ubuntu ด้วยปี ค.ศ. มาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2004 เดือนตุลาคม (Ubuntu 4.10) มาดูกันดีว่าว่าตั้งแต่เวอร์ชั่นที่ใช้ตัวเลขและชื่อคู่กันนี้มีชื่ออะไรกันบ้างแล้ว
- 4.10 “Warty Warthog” (เริ่มนำระบบตัวเลขปีกับเดือนมาใช้)
- 5.04 “Hoary Hedgehog”
- 5.10 “Breezy Badger”
- 6.06 LTS “Dapper Drake” (รุ่นแรกของการนำเอา LTS มาใช้งาน)
- 6.10 “Edgy Eft”
- 7.04 “Feisty Fawn”
- 7.10 “Gutsy Gibbon”
- 8.04 LTS “Hardy Heron”
- 8.10 “Intrepid Ibex”
- 9.04 “Jaunty Jackalope”
- 9.10 “Karmic Koala”
- 10.04 “Lucid Lynx”
- 10.10 “Maverick Meerkat”
- 11.04 “Natty Narwhal”
- 4.10 “Warty Warthog” (เริ่มนำระบบตัวเลขปีกับเดือนมาใช้)
- 5.04 “Hoary Hedgehog”
- 5.10 “Breezy Badger”
- 6.06 LTS “Dapper Drake” (รุ่นแรกของการนำเอา LTS มาใช้งาน)
- 6.10 “Edgy Eft”
- 7.04 “Feisty Fawn”
- 7.10 “Gutsy Gibbon”
- 8.04 LTS “Hardy Heron”
- 8.10 “Intrepid Ibex”
- 9.04 “Jaunty Jackalope”
- 9.10 “Karmic Koala”
- 10.04 “Lucid Lynx”
- 10.10 “Maverick Meerkat”
- 11.04 “Natty Narwhal”
- 11.10 “Oneiric Ocelot” (รุ่นปัจจุบันที่พึ่งออกให้ใช้)
ที่มา: http://news.mediathai.net/detail_news.php?newsid=79363
ประวัติ Linux
ประวัติ Linux
ในช่วงปี ค.ศ. 1987 ศาสตราจารย์ Andrew S.Tanenbaum ได้ออกแบบสร้าง ยูนิกซ์สำหรับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งบนเครื่อง PC,Mac,Amiga โดยให้ชื่อว่า Minix และยังแจกซอร์สโค้ดฟรีให้แก่นักวิจัยเพื่อนำไปพัฒนาต่อ
Andrew S.Tanenbaum
ต่อมา Linus ก็ได้เริ่มชักชวนให้โปรแกรมเมอร์คนอื่นๆ มาช่วยกันพัฒนาต่อโดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยที่ลีนุสจะเป็นคนรวบรวม ตรวจสอบ และแจกจ่ายงานให้กับโปรแกรมเมอร์จากที่ต่างๆทั่วโลก รวมทั้งแจกจ่ายให้ใครต่อใครที่สนใจช่วยทดลองใช้ และทดสอบหาข้อผิดพลาดด้วยจุด ที่น่าสนใจของงานนี้ก็คือ ทุกคนต่างทำงานให้ฟรี ด้วยความอยากเห็นผลงานสำเร็จออกมา โดยไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนให้แต่อย่างใด เพียงแต่มีเงื่อนไขว่างานที่เสร็จแล้ว ก็จะต้องเผยแพร่แก่สาธารณะ โดยไม่คิดค่าตอบแทนเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะที่เรียกว่า GPL (General Public License) ที่ริเริ่มขึ้นจากองค์กรที่เรียกว่า Free Software Foundation โดยศาสตราจารย์ Richard Stallman
Linux เริ่มต้นที่เวอร์ชั่น 0.02 พัฒนาขึ้นเป็น 0.03 และกระโดดเป็น 0.10 ด้วยการพัฒนาจากโปรแกรมเมอร์จำนวนมากมายทั่วโลก จนถึงเวอร์ชั่น 0.95 จนกระทั้งออกเป็นเวอร์ชั่น 1.0 อย่างเป็นทางการ ( Official release ) ในเดือนมีนาคม 1992 จากนั้นก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ( วันที่เขียน ) เคอร์เนล ของ Linux มีเวอร์ชั่นล่าสุดเป็น 2.2.3
ณ วันนี้ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภท Unix-liked ที่สมบูรณ์ และได้รับความสนใจอย่างสูง ใครเลยจะรู้ว่า โปรเจคของนักศึกษาที่ Torvald สร้างขึ้น จะก้าวขึ้นสู่ระดับ mainstream operating system และเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ เช่นทุกวันนี้
Linux ได้แพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง ภายใต้ข้อกำหนดของ Free Software ซึ่งมีหน่วยงานที่ควบคุมเงื่อนไข อย่างเช่น GNU จึงทำให้มีข้อแตกต่าง จากระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่มีการจำหน่ายเชิงธุรกิจ และมีราคาแพง Linux มีการแปลงโปรแกรมไปสู่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกจาก i386 ได้แก่ Sparc ,Alpha และ Macintosh ทำให้โปรแกรมเมอร์ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจที่จะพัฒนาโปรแกรมขึ้นสนับสนุน Linux มาขึ้น ส่งผลให้ Linux มีซอฟต์แวร์สนับสนุนเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีราคาถูก หรือฟรี และเปิดเผยโปรแกรมต้นฉบับ ( Open Source Code ) ตามเงื่อนไขของ GPL ( General Public License )
จากการคาดการของ IDC ( International Data Corporation of Framingham, Messachusette ) แจ้งไว้ว่าการเติบโตของ Linux จะมีส่วนแบ่งตลาด คิดเป็นร้อยละ 17.2 ในปี ค.ศ. 1998
ในช่วง 4 - 5 ปี ที่ผ่านมา มีบริษัทซอฟต์แวร์หลายแห่งได้นำเคอร์เนลของ Linux มารวมเข้ากับซอฟต์แวร์ทั้งแบบฟรี และจำหน่ายเชิงการค้า เกิดเป็น Linux Distribution ต่าง ๆ ขึ้น เป็นจำนวนมากมาย เช่น Redhat ,TurboLinux ,SUSE ,Slackware ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์จากผู้ผลิตเหล่านี้ ช่วยให้การติดตั้ง ใช้งาน สะดวกมากยิ่งขึ้น ในราคาที่คุ้มค่ากว่าระบบปฏิบัติการอื่น ๆ
ในปัจจุบัน ( ค.ศ. 2001 ) มีการนำ Linux มาใช้งานในกิจการต่าง ๆ มากขึ้น โดยที่เน้นไปที่งานด้านระบบเซิร์ฟเวอร์ และเครือข่ายเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการประยุกต์ใช้งาน Linux เพื่อใช้งานเป็น เครื่องลูกข่าย หรือใช้งานด้านเดสทอปนั้นยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็มีแนวโน้มที่ชัดเจนที่จะพัฒนา Linux เพื่องานเดสทอปมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังเช่น Linux TLE 4.0 ของไทย หรือ Redmond Linux ของทางต่างประเทศ ก็ได้พัฒนา Linux เพื่อใช้งานด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ลีนุกซ์จะเข้ามามีบทบาทในระดับผู้ใช้ทั่วไป และสามารถทดแทนวินโดวส์ได้ในที่สุด
โครงสร้างของระบบปฏิบัติการ linux
โครงสร้างของระบบปฏิบัติการ linux
ลีนุกซ์ที่ ไลนัสและนักพัฒนาร่วมกันพัฒนาขึ้น เป็นเพียงส่วนที่เรียกกันว่า เคอร์เนล (Kernel) หรือแกนการทำงานหลักของระบบ แต่เคอร์เนลไม่สามารถทำงานตามลำพังได้ต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมและอุปกรณ์ อื่นๆ ดังรูป
โครงสร้างของลีนุกซ์
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนประกอบภายในและส่วนประกอบภายนอก อย่างเช่น แรม , ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นส่วนที่เรามองเห็นและจับต้องได้
คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนประกอบภายในและส่วนประกอบภายนอก อย่างเช่น แรม , ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นส่วนที่เรามองเห็นและจับต้องได้
เคอร์เนล (Kernel)
เคอร์เนลเป็นส่วนประกอบที่สำคุญของระบบ เรียกว่าเป็นแกนหรือหัวใจของระบบก็ว่าได้ เคอร์เนลจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานทั้งหมดของระบบ ตั้งแต่การจัดสรรทรัพยากรของระบบบริการโพรเซสงาน (Process) การจัดการไฟล์และอุปกรณ์อินพุต , เอาต์พุต บรหารหน่วยความจำ โดยเคอร์เนลจะควบคุมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของเครื่องทั้งหมด ดังนั้นเคอร์เนลจึงขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ ถ้าฮาร์ดแวร์เปลี่ยนรุ่นใหม่ เคอร์เนลก็จะต้องเปลี่ยนไปด้วย
เคอร์เนลเป็นส่วนประกอบที่สำคุญของระบบ เรียกว่าเป็นแกนหรือหัวใจของระบบก็ว่าได้ เคอร์เนลจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานทั้งหมดของระบบ ตั้งแต่การจัดสรรทรัพยากรของระบบบริการโพรเซสงาน (Process) การจัดการไฟล์และอุปกรณ์อินพุต , เอาต์พุต บรหารหน่วยความจำ โดยเคอร์เนลจะควบคุมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของเครื่องทั้งหมด ดังนั้นเคอร์เนลจึงขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ ถ้าฮาร์ดแวร์เปลี่ยนรุ่นใหม่ เคอร์เนลก็จะต้องเปลี่ยนไปด้วย
ภายในเคอร์เนล จะประกอบไปด้วยโมดูล (Module) ต่างๆ และบางครั้งเราอาจจะเรียกโมดูลเหล่านี้ว่า ไดรเวอร์ (Driver) มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อกันระหว่างแอพพลิเคชันหรือ ระบบปฏิบัติการกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมด ทั้งภายในและนอกเครื่องคอมพิวเตอร์
เชลล์ (Shell)
เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างผู้ใช้กับ Kernel โดยรับคำสั่งจากผู้ใช้ทางอุปกรณ์อินพุต อย่างเข่น คีย์บอร์ด ส่งให้ kernel ของระบบปฏิบัติการ เป็น command interpreter แล้วทำการแปลให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ นอกจากนี้เชลล์ยังทำหน้าที่ในการควบคุมและกำหนดทิศทางของอินพุตและเอาท์พุต ได้ด้วยว่าจะให้เข้าหรือออกมาทางใด เช่น อาจกำหนดให้เอาต์พุตออกมาทางหน้าจอ หรือเก็บลงในไฟล์ก็ได้
เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างผู้ใช้กับ Kernel โดยรับคำสั่งจากผู้ใช้ทางอุปกรณ์อินพุต อย่างเข่น คีย์บอร์ด ส่งให้ kernel ของระบบปฏิบัติการ เป็น command interpreter แล้วทำการแปลให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ นอกจากนี้เชลล์ยังทำหน้าที่ในการควบคุมและกำหนดทิศทางของอินพุตและเอาท์พุต ได้ด้วยว่าจะให้เข้าหรือออกมาทางใด เช่น อาจกำหนดให้เอาต์พุตออกมาทางหน้าจอ หรือเก็บลงในไฟล์ก็ได้
โปรแกรมประยุกต์ (Application)
คือ โปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานต่างๆ บนลีนุกซ์ อย่างเช่น Star Office (โปรแกรมจัดการทั่วไปในสำนักงานคล้ายกับ Microsoft Office) , Gimp (โปรแกรมแต่งภาพบนลีนุกซ์คล้ายกับ Photoshop) โดยที่โปรแกรมประยุกต์ต่างๆ
ข้อแตกต่างระหว่าง Linux กับ Micosoft
แตกต่างอย่างแน่นอน เนื่องจาก Windows พัฒนาโดยบริษัท ไมโครซอฟ(Microsoft : MS) ซึ่งได้พัฒนามาตั้งแต่ Windows 3.1 จน มาถึงปัจจุบันคือ Windows 7 การทำงานในช่วงที่เป็น Windows XP ได้สร้างให้เกิดความนิยมใช้ Personal Computer (PC) เป็น จำนวนมาก แต่ด้วยความ ไมโครซอฟท์ ใช้การตลาดในการนำเสนอ ทำให้รีบส่งโปรแกรมออกสู่ตลาด ปัญหาจึงเกิดขึ้นมาไม่ว่าการใช้งานไม่ว่าระบบรักษาความปลอดภัย แต่หลังๆ ผู้ผลิตซอฟท์แวร์ก็ใช้แนวทางนี้เพื่อแย่งชิงตลาด
ซอฟท์แวร์เช่นกัน จนมาถึง Vista ซึ่งพัฒนาความสวยงาม เพิ่ม Security แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับนัก เพราะมีปัญหาหลายประการไม่ว่าความช้า หรืออื่นจน MS กัดฟันรีบปรับปรุงพัฒนาเป็น Windows 7 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่เดือนนี้ออกมา ซึ่งได้รับ
การตอบรับดีมากเพราะ Windows 7 คือWindows Vista ที่มาทำการรีดไขมันออกจนหมด จึงทั้งสวยทั้งดี แต่อีกประการต้องแลกมาด้วยการจ่ายค่า License ซึ่งมีราคาประมาณ 6000-7000 บาท ยังไม่นับรวมซอฟท์แวร์ประกอบอื่น เฉพาะ OS เท่านั้น การใช้งานก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากการเปิดเครื่องที่ช้าจนมาถึง Windows 7 ก็ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
Linux : ได้รับการพัฒนาโดยใช้หลักของ OpenSource ก็สังคมแห่งการแบ่งปัน ไม่ได้หวังผลกำไร แทบไม่น่าเชื่อ Linux พัฒนาจากยากมากๆ จนขณะนี้เทียบได้กับ Windows XP ได้ แล้ว และจะพัฒนาต่อไป เพราะมีคนช่วยพัฒนาการใช้งานเร็ว ไม่มีปัญหาแฮงค์ ไม่มีปัญหาเพี้ยน ระบบรักษาความปลอดภัยดี ระบบไฟล์เยี่ยมเพราะมาจาก Unix สุดท้ายคือด้วยความที่เป็น OpenSource คือไม่หวังผลกำไรแต่ไม่ใช้ว่าไม่เสียเงิน หรือฟรี
ซอฟท์แวร์เช่นกัน จนมาถึง Vista ซึ่งพัฒนาความสวยงาม เพิ่ม Security แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับนัก เพราะมีปัญหาหลายประการไม่ว่าความช้า หรืออื่นจน MS กัดฟันรีบปรับปรุงพัฒนาเป็น Windows 7 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่เดือนนี้ออกมา ซึ่งได้รับ
การตอบรับดีมากเพราะ Windows 7 คือWindows Vista ที่มาทำการรีดไขมันออกจนหมด จึงทั้งสวยทั้งดี แต่อีกประการต้องแลกมาด้วยการจ่ายค่า License ซึ่งมีราคาประมาณ 6000-7000 บาท ยังไม่นับรวมซอฟท์แวร์ประกอบอื่น เฉพาะ OS เท่านั้น การใช้งานก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากการเปิดเครื่องที่ช้าจนมาถึง Windows 7 ก็ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
Linux : ได้รับการพัฒนาโดยใช้หลักของ OpenSource ก็สังคมแห่งการแบ่งปัน ไม่ได้หวังผลกำไร แทบไม่น่าเชื่อ Linux พัฒนาจากยากมากๆ จนขณะนี้เทียบได้กับ Windows XP ได้ แล้ว และจะพัฒนาต่อไป เพราะมีคนช่วยพัฒนาการใช้งานเร็ว ไม่มีปัญหาแฮงค์ ไม่มีปัญหาเพี้ยน ระบบรักษาความปลอดภัยดี ระบบไฟล์เยี่ยมเพราะมาจาก Unix สุดท้ายคือด้วยความที่เป็น OpenSource คือไม่หวังผลกำไรแต่ไม่ใช้ว่าไม่เสียเงิน หรือฟรี
ข้อดีและข้อเสีย ของระบบปฎิบัติการ ubuntu
ข้อดีและข้อเสีย ของระบบปฎิบัติการ ubuntu
- คนใช้น่าจะมากกว่า OSX นะในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็น Geek ผู้ใช้ระดับ User จริง ๆ อาจยังน้อยอยู่ แต่ชุมชนในไทย และทั่วโลกเข้มแข็งมากที่สุด
- ใช้งานไม่ง่าย แต่ปรับแต่งได้เต็มที่ อาจต้องพึ่ง command อยู่บ้าง
- ความสวยก็สวยนะ สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระมาก ๆ ที่สำคัญ Desktop Effect นี่กินขาดทุก OS เลย
- โปรแกรมและไดร์เวอร์ มีให้ใช้ทั้ง ซื้อ ฟรี Open Source และเถื่อน ไม่เท่า windows ไม่เท่า mac os บางอย่างก็ต้องตัดใจอันนี้ผมว่าต้องอาศัยการวางแผนแล้วล่ะ ประมาณว่าจะซื้อ Hardware ก็ต้องดูก่อนว่า Support ใหม หรือเราใช้โปรแกรมนี้อยู่ไปใช้ Ubuntu จะใช้อะไร ตอบโจทย์เราได้ใหม
- ติดตั้งโปรแกมค่อนข้างยากนะ อย่างที่ willwill บอกต้อง เมพ นิดนึง ที่สำคัญโปรแกรมหลายตัวมีปัญหากับ Hardware ด้วยเช่น Desktop Effect บางอย่างก็ compile ไม่ผ่าน
- อันนี้อารมเดียวกับ leopard อ่ะ
- การบริหารจัดการไฟล์ดีนะ mac มีข้อเสียเรื่องการใช้งานพื้นที่ค่อนข้างสิ้นเปลือง แต่ Ubuntu นี่ผมว่าอยู่กลาง ๆ
ปลอดภัย windows < osx < ubuntu
Fragment windows < ubuntu < osx
Index windows < ubuntu < osx
Volume osx < ubuntu < windows Recovery อันนี้แล้วแต่การปรับแต่งนิ แต่โดยพื้นฐานแล้ว osx ดีสุดนะมี Time Machine
- ทำงานดีสุดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องครับ ถ้าปรับแต่งได้ดีก็จะมีเสฐียรภาพมาก แต่ก็ต้องดู Hardware Support ด้วยนะครับสรุปคือต้องวางแผน
- OS นี่ก็บอกได้ว่าฟรี แบบไม่มีเงือนไข
ที่มา: http://lovelysiberian.igetweb.com/index.php?mo=3&art=371049
- ใช้งานไม่ง่าย แต่ปรับแต่งได้เต็มที่ อาจต้องพึ่ง command อยู่บ้าง
- ความสวยก็สวยนะ สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระมาก ๆ ที่สำคัญ Desktop Effect นี่กินขาดทุก OS เลย
- โปรแกรมและไดร์เวอร์ มีให้ใช้ทั้ง ซื้อ ฟรี Open Source และเถื่อน ไม่เท่า windows ไม่เท่า mac os บางอย่างก็ต้องตัดใจอันนี้ผมว่าต้องอาศัยการวางแผนแล้วล่ะ ประมาณว่าจะซื้อ Hardware ก็ต้องดูก่อนว่า Support ใหม หรือเราใช้โปรแกรมนี้อยู่ไปใช้ Ubuntu จะใช้อะไร ตอบโจทย์เราได้ใหม
- ติดตั้งโปรแกมค่อนข้างยากนะ อย่างที่ willwill บอกต้อง เมพ นิดนึง ที่สำคัญโปรแกรมหลายตัวมีปัญหากับ Hardware ด้วยเช่น Desktop Effect บางอย่างก็ compile ไม่ผ่าน
- อันนี้อารมเดียวกับ leopard อ่ะ
- การบริหารจัดการไฟล์ดีนะ mac มีข้อเสียเรื่องการใช้งานพื้นที่ค่อนข้างสิ้นเปลือง แต่ Ubuntu นี่ผมว่าอยู่กลาง ๆ
ปลอดภัย windows < osx < ubuntu
Fragment windows < ubuntu < osx
Index windows < ubuntu < osx
Volume osx < ubuntu < windows Recovery อันนี้แล้วแต่การปรับแต่งนิ แต่โดยพื้นฐานแล้ว osx ดีสุดนะมี Time Machine
- ทำงานดีสุดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องครับ ถ้าปรับแต่งได้ดีก็จะมีเสฐียรภาพมาก แต่ก็ต้องดู Hardware Support ด้วยนะครับสรุปคือต้องวางแผน
- OS นี่ก็บอกได้ว่าฟรี แบบไม่มีเงือนไข
ที่มา: http://lovelysiberian.igetweb.com/index.php?mo=3&art=371049
ข้อดี ของ Linux
1.Linux . เป็น Free Ware
2.สนับสนุนการใช้งานแบบหลากงาน หลายผู้ใช้ (MultiUser-MultiTasking)
3.มีระบบ X วินโดวส์ ซึ่งเป็นระบบการติดต่อผู้ใช้แบบกราฟฟิก ที่ไม่ขึ้นกับ OS หรือฮาร์ดแวร์ใดๆ
4.มีเสถียรภาพสูง สามารถเป็น Server ใน Network ได้หลายรูปแบบ
5.เป็นระบบเปิด ทำให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาร่วมในการพัฒนาโปรแกรมได้ โปรแกรมจึงมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
1.Linux . เป็น Free Ware
2.สนับสนุนการใช้งานแบบหลากงาน หลายผู้ใช้ (MultiUser-MultiTasking)
3.มีระบบ X วินโดวส์ ซึ่งเป็นระบบการติดต่อผู้ใช้แบบกราฟฟิก ที่ไม่ขึ้นกับ OS หรือฮาร์ดแวร์ใดๆ
4.มีเสถียรภาพสูง สามารถเป็น Server ใน Network ได้หลายรูปแบบ
5.เป็นระบบเปิด ทำให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาร่วมในการพัฒนาโปรแกรมได้ โปรแกรมจึงมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ข้อเสีย
1.ใช้งานยาก การทำงานคล้ายกับระบบ Unix
2.ไม่มี owner รับผิดชอบ
2.ไม่มี owner รับผิดชอบ
คำสั่งพื้นฐานสำหรับ Linux
คำสั่งพื้นฐานสำหรับ Linux
pwd
|
แสดงตำแหน่งปัจจุบัน
|
ls
|
แสดงรายชื่อไฟล์ ไดเร็คทอรี่ ในรูปแบบต่างๆ
|
cd
|
คือการ access เข้าไปยังไดเร็คทอรี่
|
cd ..
|
การถอยออกจากไดเร็คทอรี่ที่อยู่ปัจจุบัน หนึ่งไดเร็คทอรี่
|
tty
|
การแสดงหน้าจอที่กำลังใช้งานอยู่
|
whoami
|
แสดงว่าตัวเองเป็น user อะไร
|
cp
|
การสำเนาไฟล์
|
mv
|
การย้ายไฟล์
|
mkdir
|
การสร้างไดเร็คทอรี่
|
touch
|
การสร้างไฟล์
|
rm
|
การลบไฟล์
|
rmdir
|
การลบไดเร็คทอรี่
|
history
|
การแสดงคำสั่งที่เราได้ใช้ไปแล้ว
|
man
|
เป็นการขอตัวช่วยหรือเป็นการดูเอกสารของคำสั่งนั้นๆ
|
reboot
|
การ restart เครื่อง
|
init 0
|
การปิดเครื่อง
|
date
|
การแสดงวัน
|
cal
|
การแสดงปฏิทิน
|
finger
|
การแสดงรายชื่อ user ที่กำลังอยู่ในระบบขณะนี้
|
exit
|
การออกจาก shell ปัจจุบัน
|
fdisk
|
การจัดการเกี่ยวกับ partition
|
cat
|
เป็นการดูเนื้อหาของไฟล์ที่ต้องการเช่น cat /etc/passwd
|
find
|
เป็นการค้นหาไฟล์
|
grep
|
เป็นคำสั่งในการหาข้อความในบรรทัด
|
gzip
|
เป็นการลดขนาดไฟล์
|
gunzip
|
เป็นการยกเลิกการลดขนาดไฟล์
|
chmod
|
เป็นการกำหนดค่าที่เซตใน Owner-Group-Other
|
chown
|
เป็นการเปลี่ยนมือเจ้าของ
|
chgrp
|
เป็นการเปลี่ยนกลุ่ม
|
mount
|
เป็นคำสั่งที่เมาท์อุปกรณ์ หรือพาร์ติชั่น โดยมีรูปแบบดังนี้ mount options device directory
|
umount
|
เป็นการยกเลิกการเมาท์
|
fsck
|
เป็นการตรวจสอบไฟล์ หรือย่อจาก File System Checking
|
df
|
เป็นคำสั่งที่ดูเนื้อที่ว่างบนระบบไฟล์ที่เมาท์
|
du
|
เป็นการดูเนื้อที่ว่างบนไดเรคทรอรี่ที่ใช้อยู่
|
ps
|
แสดงงานที่เปิดอยู่ หรือกระบวนการที่ทำงาน
|
kill
|
เป็นคำสั่งที่ยกเลิกการทำงานของกระบวนการ
|
logout
|
เป็นคำสั่งที่ออกจากระบบ ใช้ได้ต่อเมื่ออยู่ใน Shell
|
free
|
เป็นการแสดงสถานะของเมมโมรี่ และเนื้อที่ว่างบนเมมโมรี่ ทั้งกายภาพ ที่ใช้ ใน swap, และบัฟเฟอร์
|
mke2fs
|
เป็นคำสั่งฟอร์แมตดิสก์พร้อมใส่ระบบไฟล์ไปด้วย
|
lpr
|
เป็นการส่งงานพิมพ์จากเครื่องลูกข่าย
|
ที่มา: http://www.lovespacediary.com/education/open-os/linux/item/10-basic-command-for-linux.html |
วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555
แนะนำตัวกันหน่อยย (:
ผมชื่อ : นาย พีรภัทร สิงคะนอง
ชื่อเล่น : จอม
เกิดวันที่ : 21 ต.ค. 2538
อายุ : 16ปี
ศึกษาอยู่ที่ : โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒
งานอดิเรก : เลี้ยงปลาคาร์พ
สัตว์ที่ชอบ : ปลาคาร์พ
คติประจำตัว : ซักวันต้องเป็นวันของเรา
ชื่อเล่น : จอม
เกิดวันที่ : 21 ต.ค. 2538
อายุ : 16ปี
ศึกษาอยู่ที่ : โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒
งานอดิเรก : เลี้ยงปลาคาร์พ
สัตว์ที่ชอบ : ปลาคาร์พ
คติประจำตัว : ซักวันต้องเป็นวันของเรา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)